Thursday, 3 May 2012
วัดบ้านพราน: แสงปัญญา
วัดบ้านพราน: แสงปัญญา: แสงสว่างใดๆ ... ก็ไม่อาจเปรียบได้กับแสงสว่างของปัญญา เมื่อเราลืมตาในที่มืดมิดไร้แสงไฟใดๆ จะรู้ว่าสายตาของเรานั้น ไม่สามารถ...
วัดบ้านพราน: รสแห่งพระธรรม
วัดบ้านพราน: รสแห่งพระธรรม: จงมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน... ตัวเรา มิใช่เห็นเพียง.. เรา จง.. รู้ เท่าทัน จิต ที่เตลิดเปิดเปิงในทุกเวลา ทุกสรรพสิ่งล้วน ไม่...
วัดบ้านพราน: โลกร้อน
วัดบ้านพราน: โลกร้อน: โลกร้อน... มนุษย์...อยู่ท่ามกลางความร้อน..มานาน..ทุกวัน จน..ชิน จนไม่รู้จัก..ความสงบ..ร่มเย็น เมื่อมาพบ..เลยกลายเ...
วัดบ้านพราน: ภาพุทธประวัติและบรรยาย
วัดบ้านพราน: ภาพุทธประวัติและบรรยาย: พุทธประวัติโดยย่อ ก่อนพุทธกาล ณ เมืองกรุงกบิณพัสดุ์ ซึ่งเป็นราชธานีแห่งแคว้นศากยะ พระนางสิริมหามา...
Wednesday, 2 May 2012
ฐานธรรม ธรรมฐาน: ความคุ้นชิน
ฐานธรรม ธรรมฐาน: ความคุ้นชิน: คนเรานั้น.... ชินกับการอยู่กับความคุ้มครอง ชินกับการอยู่กับความอบอุ่น จนไม่สามารถที่จะอยู่คนเดียวได้ แม้บางครั้งต้องการอิสร...
ความคุ้นชิน
คนเรานั้น....
ชินกับการอยู่กับความคุ้มครอง
ชินกับการอยู่กับความอบอุ่น
จนไม่สามารถที่จะอยู่คนเดียวได้
แม้บางครั้งต้องการอิสระภาพ เสรีภาพ
ก็ไม่อาจที่จะมีได้ โดยลำัพังคนเดียว
เพราะความกลัวภายใต้จิตสำนึก
ตั้งแต่ครั้งที่อยู่ในครรภ์มารดา
ฝังแน่นจนไม่อาจแกะออกได้ง่ายๆ
และมนุษย์ เป็นสัตว์ประเภทเดียว
ที่มันสมองใหญ่กว่าสัตว์อื่น
ความคิดเลยมากกว่า
กิเลสมากกว่า ทุกข์มากกว่า
ปัญหามากว่า
ไม่มีวันหมด.
ฐานธรรม ธรรมฐาน: เป้าหมายแรก
ฐานธรรม ธรรมฐาน: เป้าหมายแรก: การทำสมาธิ เป้าหมายแรกของการทำสมาธิ ก็ คือการ หยุด การดิ้นรนของจิต ดึงจิตที่วุ่นวาย เตลิดเปิกเปิงวิ่งไปโน่นนี่ เหมือนก...
เป้าหมายแรก
การทำสมาธิ
เป้าหมายแรกของการทำสมาธิ
ก็ คือการ หยุด การดิ้นรนของจิต
ดึงจิตที่วุ่นวาย เตลิดเปิกเปิงวิ่งไปโน่นนี่
เหมือนการเหยียบเบรคให้จิตที่ตะบึงไร้ทิศทาง
ให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอย
กลับมาอยู่กับร่างกายของเจ้าของ
และ เมื่อทำสำเร็จ จิตสงบ
เมื่อจิตนิ่ง สมาธิก็เกิด
ปัญญาที่จะให้รู้แจ้งเห็นจริงก็ปรากฏ
ระยะแรกอาจจะยากหน่อย
เพราะเราปล่อยให้จิต ชินกับความวุ่นวายมานาน
แต่...จิตเดิมแท้ นั้น ประภัสสร
หากมีความพยายาม
วันหนึ่งก็จะกลับมา...เหมือนเดิม.
ฐานธรรม ธรรมฐาน: พระพุทธองค์ ทรงตรัสเรื่อง บัวสี่เหล่าในความหมา...
ฐานธรรม ธรรมฐาน:
พระพุทธองค์ ทรงตรัสเรื่อง บัวสี่เหล่าในความหมา...: พระพุทธองค์ ทรงตรัสเรื่อง บัวสี่เหล่า ในความหมายนั้น คือการจะสั่งสอนใครให้มองดู ความรู้ความสามารถ ของแต่ละบุคคล ธรรมะแบบหน...
พระพุทธองค์ ทรงตรัสเรื่อง บัวสี่เหล่าในความหมา...: พระพุทธองค์ ทรงตรัสเรื่อง บัวสี่เหล่า ในความหมายนั้น คือการจะสั่งสอนใครให้มองดู ความรู้ความสามารถ ของแต่ละบุคคล ธรรมะแบบหน...
พระพุทธองค์ ทรงตรัสเรื่อง บัวสี่เหล่า
ในความหมายนั้น คือการจะสั่งสอนใครให้มองดู ความรู้ความสามารถ
ของแต่ละบุคคล
ธรรมะแบบหนึ่งย่อมเหมาะกับคนแบบหนึ่ง แต่ไม่เหมาะกับคนอีกแบบหนึ่ง
ควรพูดอะไรกับใคร ไม่ควรพูดอะไรกับใคร
พระองค์ท่านรู้จักวิธีแยกแยะและประยุกต์
มาตั้งแต่ครั้นพุทธกาล
ก่อนที่ปราชญ์ทั้งหลายจะถือกำเนิด ด้วยซ้ำ
เราเองก็สามารถทำได้เช่นกัน
ธรรมมะเป็นเรื่องของทุกคน
ไม่เลือกเพศ ชนชั้น
เพียงแต่เราเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา
ปรับนำมาใช้
เฉกเช่นเด็กกับผู้ใหญ่ ความ อยากย่อมไม่เหมือนกัน
อาหารที่ทานย่อมต่างกัน
ฉันใดฉันนั้น .
ฐานธรรม ธรรมฐาน: โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส
ฐานธรรม ธรรมฐาน: โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส: ในเรื่อง ของการขจัดปัญหา หรืออวิชชา เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ โดยไม่ให้มีปัญหา ซึ่งก็คือการมีชีวิตอยู่ให้ถูกต้อง ตามหลักอริยมรร...
โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส
ในเรื่องของการขจัดปัญหา หรืออวิชชา
เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ โดยไม่ให้มีปัญหา
ซึ่งก็คือการมีชีวิตอยู่ให้ถูกต้อง
ตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ คือหนทางอันประเสริฐ ๘
๑ สัมมาทิฏฐิ ความคิดเห็นอันถูกต้อง
๑ สัมมาสังกัปโป ความปรารถนาที่ถูกต้อง
๑ สัมมาวาจา การพูดจาที่ถูกต้อง
๑ สัมมากัมมันโต ประพฤติถูกต้อง
๑ สัมมาอาชีโว การเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง
๑ สัมมาวายาโม ถูกต้องในความพยายาม
๑ สัมมาสติ มีสติเป็นเครื่องกำหนดที่ถูกต้อง
๑ สัมมาสมาธิ มีจิตแน่วแน่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ
( มีใน ธัมจักรกัปตนสูตร เมื่อครั้งโปรดปัญจวัคคี ทั้ง ๕ จนกำเนิดพระสงฆ์ องค์แรก ในศาสนาของพระศาสดา คือ ท่านอัญญาโกญธัญญะ )
เมื่อพิจารณาตามจะพบว่า
พระพุทธองค์ ตรัสสั่งสอนเกี่ยวกับศีลธรรม
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของมนุษย์
ไม่ใช่สิ่งที่อยู่นอกเหนือ
ไม่ใช่สิ่งที่มองไม่เห็น
ไม่ใช่สิ่งลึกลับประการใด
เป็นเรื่องของ กาย วาจา ใจ ล้วนๆ
ง่ายๆ แต่ ลึกซึ้ง
ปฏิบัติได้ทุกถ้วนทั่วตัวคน
แต่..คน...ก็ยังมีปัญหาอยู่ มิวาย.
ฐานธรรม ธรรมฐาน: ธรรมะชำระใจ
ฐานธรรม ธรรมฐาน: ธรรมะชำระใจ: ธรรมะที่แท้จริง คือความใสสะอาดของจิตใจ ไม่ได้ร้องขออะไรเพื่อตน เพียงเพื่อขอให้ได้พบกับความต้องการ ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข อ...
ฐานธรรม ธรรมฐาน: โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส
ฐานธรรม ธรรมฐาน: โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส: สาเหตุ ของความทุกข์ เกิดจากจิตที่ดิ้นรน เป็นการดิ้นรนหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้ จนกระทั่งบางที เรื่องที่ไม่อาจรู...
ฐานธรรม ธรรมฐาน: โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส
ฐานธรรม ธรรมฐาน: โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส: ความทุกข์ จากความไม่รู้ มักจะเกิดขึ้นในทุกครั้ง เมื่อความไม่รู้ในสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏ ในวันๆหนึ่ง อาจจะเกิดขึ้นเป็นหลา...
โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส
ความทุกข์จากความไม่รู้
มักจะเกิดขึ้นในทุกครั้ง
เมื่อความไม่รู้ในสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรากฏ
ในวันๆหนึ่ง อาจจะเกิดขึ้นเป็นหลายครั้ง
หรือเกิดขึ้นตลอดเวลา
สำหรับผู้ที่มี ความไม่รู้เยอะ
และหรือโดยไม่รู้สึกตัว
ความไม่รู้หรืออวิชชานั้น
ในพระพุทธวจนะ
เมื่อความทุกข์หรือปัญหามาจากอวิชชา หรือกิเลสแล้ว
ความไม่มีทุกข์หรือไม่มีปัญหา
ก็คือความไม่มีอวิชชา
หรือไม่มีกิเลสนั่นเอง
ดังนั้น การจะดับทุกข์ สิ้นปัญหา
จึงต้องดับที่ต้นเหตุ
นั่นคือความไม่รู้ หรืออวิชชา
ด้วยการศึกษาหาความรู้วิชาต่างๆ
เพื่อขจัดทุกข์
มิใช่บนบานอ้อนวอนร้องขอ แต่อย่างใด.
โมกข์ธรรมประยุกต์ จากท่านพุทธทาส
สาเหตุของความทุกข์
เกิดจากจิตที่ดิ้นรน
เป็นการดิ้นรนหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้
จนกระทั่งบางที
เรื่องที่ไม่อาจรู้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ต้องเชื่อ จำเป็นต้องเชื่อ
ต่อเมื่อความเชื่อถูกพิสูจน์
จนกลายเป็นความรู้
ความทุกข์แห่งความไม่รู้ก็จักหายไป
หายไป แล้ว...
กลับเข้ามาใหม่
เพราะมนุษย์มีสิ่งที่ไม่รู้มากกว่าสิ่งที่รู้.
Thursday, 26 April 2012
ธรรมะชำระใจ
ธรรมะที่แท้จริง
คือความใสสะอาดของจิตใจ
ไม่ได้ร้องขออะไรเพื่อตน
เพียงเพื่อขอให้ได้พบกับความต้องการ
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข
อยู่กับสุขกับทุกข์โดยไม่ปรากฏ
ขอเพียงสติรู้
ในทุกขณะลมหายใจ
อยู่กับสุข โดยไม่หลงสุข
อยู่กับทุกข์ ไดยไม่หลงทุกข์
ต่อเติมปัญญา
ไม่ใช่พอกพูนกิเลสหนา
วิ่งวุ่นเป็นบ้าเป็นบอ
บางวันหัวร่อสุขล้น
บางวันพร่ำบ่นร่ำไห้ เพ้อเจ้อรำพึงรำพัน
ชีวิต ไม่ควรเป็นอย่างนั้น
ขอธรรมะชำระใจ
Sunday, 18 March 2012
Tuesday, 28 February 2012
Thursday, 16 February 2012
เสน่ห์ของหน้าที่
ในความเป็นจริง..
เราทุกคนต่างมีหน้าที่
หน้าที่ในความสัมพันธ์
หน้าที่ของความเป็นพ่อแม่
หน้าที่ของความเป็นลูก
หน้าที่ของความเป็นพี่
หน้าที่ของความเป็นน้อง
หน้าที่ของความเป็นเพื่อน
หน้าที่ของความเป็นแฟน
หน้าที่ของลูกศิษย์
หน้าที่ของนักเรียนนักศึกษา
ฯลฯ
แต่...........................
เราทุกคนก็ไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ทุกๆหน้าที่
ในเวลาเดียวกันได้
และทุกๆหน้าที่ก็มีความจำเป็นแล้วสำคัญเหมือนกันหมด
เราควรทำหน้าที่อะไร?
หน้าที่ที่เราต้องทำก็คือหน้าที่ของตัวเอง
ต่อสถานะของคนที่อยู่ตรงหน้าเรา
เพราะคนที่สำคัญที่สุดก็คือคนที่อยู่ตรงหน้าเรา
ไม่ใช่ใครต่อใครที่ไม่ได้ยู่ ณ ที่นั้น
คงไม่มีใครเป็นปลื้ม หากคู่สนทนามัวแต่สนใจคนอื่น
คงไม่มีใครชอบที่นั่งอยู่ด้วยกันแต่อีกคนมัวแต่โทรศัพท์หาใครก็ไม่รู้
อย่าให้ความสำคัญกับใครมากกว่าคนที่อยู่ตรงหน้า
เพราะนั่นหมายความว่าคุณเองก็มีความสำคัญเช่นกัน.
จุดหมายของชีวิต
เรากำลังเดินไปสู่ที่ใด?
จุดหมายปลายทางอยู่ที่ใหน?
อะไรคือปลายสุดของความใฝ่ฝัน
หากเป็นเรื่องของความรู้สึกนึกคิด
จุดหมายปลายทางของทุกคน
ย่อมเป็นเรื่องที่สนองตอบความต้องการ
ของจิตใต้สำนึก
เพื่อให้ได้ตามใจปรารถนา
เพื่อเติมเต็มความไม่มีที่ไม่สิ้นสุด
เรากำลังลืมไปว่า
แท้ที่จริงเราทุกคนล้วนกำลังเดินไปสู่ความสิ้นสูญ
ชีวิต....ที่สิ้นสูญ
ความแตกดับ
และเราเตรียมตัวพร้อมหรือยังที่จะพบเจอมัจจุราช
เราสร้างคุณงามความดีอะไรไว้บ้างหรือยัง ?
เวลาที่เหลืออยู่
เราทุกคนรู้หรือว่าแต่ละคนมีเท่าไหร่?
เราทุกคนล้วนไม่มีใครรู้
และเราทุกคนก็ไม่ตระหนักถึงความจริงข้อนี้
เราทุกคงยังประมาทกับการใช้ชีวิต
ยังคงใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย
..........ไปวันๆ
ท่านทั้งหลาย
จงตระหนักถึงความจริงของชีวิตเถิด
จงถึงซึ่งความไม่ประมาทเถิด
เพราะเรามีเวลาเหลือน้อยลงทุกวินาที
ทุกลมหายใจเข้าออก
นั่นหมายความว่าชีวิตเราสั้นลงไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
เวลามีไม่มากพอที่จะผลัดผ่อนในการรู้ซึ้งถึงพระธรรม
บางคนตลอดชีวิตก็หาไม่พบ
ที่ไม่พบเพราะไม่เคยหา
อย่าสักแต่ว่ามีศาสนาในทะเบียน
อย่าสักแต่ว่ามีศาสนาไว้เพียงเพื่อกรอกประวัติ
จงมารู้ตื่น เบิกบาน นับแต่วันนี้เถิด.
ดอกไม้
ดอกไม้..
ไม่ว่าจะอย่างไรก็จักต้องเบ่งบานเสมอ
อาจจะมีบ้างที่ไม่มีโอกาส
แต่เมื่อชื่อว่าดอกไม้
ก็มีหน้าที่ที่จะต้องแย้มบาน
เราทุกคนก็ล้วนมีหน้าที่
และทุกอย่างเป็นไปตามวิถีที่จะต้องเป็น
ไม่มีอะไรที่จะหลุดพ้นความเป็นธรรมชาติ
เมื่อบานแล้วก็ต้องร่วงโรย
เป็นธรรมดา
เรื่องราวต่างๆบนโลก
ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาต่างๆนานา
เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จักเจริญเติบโตไปในช่วงขณะหนึ่ง
ที่สุดก็จะสิ้นสูญ
เป็นปกติ เป็นเรื่องธรรมดา เช่นกัน
มันก็อยู่ที่ว่า..เบ่งบานแล้วมีประโยชน์หรือโทษ
น่าชื่นชมหรือน่ารังเกียจ
น่าขยายพันธ์หรือน่าทำลายทิ้ง
มันอยู่ที่ความดีงาม ของสิ่งนั้นๆ
เราทุกคนล้วนมีหน้าที่
แล้วเราควรจะทำหน้าที่อะไรให้โลกจดจำ.
Monday, 23 January 2012
Thursday, 19 January 2012
ฟ้าไม่เป็นสีฟ้า คนไม่เป็นสีคน
เมื่อโลก...ไม่เป็นโลก
ท้องฟ้า ไม่เป็นสีฟ้า
คนไม่เป็น..คน
ความวุ่นวาย ยุ่งเหยิง
การเอารัดเอาเปรียบ การเข่นฆ่า
มนุษย์ห่างไกลศีลธรรม
ถูกครอบงำด้วยกิเลสตัณหา
ถูกไฟราคะเผาผลาญ
จิตจมดิ่งสู่อบายภูมิ
คนดีสาบสูญ
ผู้คนโง่เขลางมงาย
ปีนป่ายในบ่อกามารมณ์
เหมือนโลกจะมืดมน ดับสิ้น
แต่..ไม่มีอะไรอยู่ยั้งยืนยง
ทุกอย่างเคลื่อนตัวไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์
มีมืดก็มีสว่าง
ไม่มีอะไรที่เป็นนิรันด์
นอกจาก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
เวียนว่าย หมุนวน
เห็นสัจจธรรมบ้างไหม?
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
คนเรา ?
คนเรานั้น มีเวลาเท่าๆกัน
มีเวลาที่จะเจอความทุกข์และความสุข...เหมือนกัน
แม้ว่ารูปแบบจะแตกต่าง
แต่ก็เป็นสิ่งเดียวกัน
ไม่ว่าจะมีความแตกต่างใด
ทุกคนก็ต้องเจอสิ่งเดียวกันไม่มียกเว้น
นั่นก็คือ เวลาแห่งความสิ้นสุดของชีวิต
วันหนึ่งๆ...เรามีเวลาคิดถึงตัวเองบ้างไหม?
หรือคิดถึงแต่คนรอบข้าง
คนส่วนมากคิดถึงคนที่ตัวเองรัก
แต่ไม่ค่อยคิดถึงคนที่รักตัวเอง
บางทีก็ไม่มีเลย
หากไม่แม้จะคิดถึงใคร ?
ก็คิดถึงวันสุดท้ายของชีวิตไว้บ้าง
เพราะอาจจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ก็ได้
จะได้มีเวลาหันมามองคนที่รักเราบ้าง
คนที่่รักเราโดยแท้จริง
ไม่ต้องการอะไรจากเราแม้แต่น้อย
มีแต่ให้
จะได้ไม่ชื่อว่า...อกตัญญู.
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
Tuesday, 17 January 2012
เพราะชีวิตมีธรรมะ ธรรมะเลยมีชีวิต
สติ คือปัจจุบันรู้
รู้ในรู้
รู้ว่ากำลังทำอะไร ?
กำลังตกหลุมรักใคร ?
กำลังเกลียดใคร ?
กำลังโกรธใคร?
กำลังทานข้าว อ่านหนังสือ ซื้อของ ข้ามถนน ก้าวขาขึ้นรถ ฯลฯ
แบบนี้คือปัจจุบันรู้
รู้ว่าทานข้าวกับอะไร ประกอบด้วยอะไร มีประโยชน์หรือไม่
อ่านหนังสืออะไร ข้อความหมายถึงอะไร เข้าใจเพียงใด ?
ทุกอย่างที่เป็นปัจจุบันรู้นั่แหละคือสติ
เมื่อสติเกิดเต็มรอบ ปัญญาก็จะเข้ามาทันที
ปัญญาก็คือผลของสติรู้
ผู้ที่มีสติ มักจะทำการทำงานสำเร็จ
เป็นเพราะมีปัญญาเข้ามาช่วย
ปัญญาช่วยหาทางออกให้กับสติ
เป็นผู้หนุนสติให้สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานาไปได้
นี่คือเหตุผลที่ว่า ธรรมะคือชีวิต
เพราะทุกขณะลมหายใจมีธรรมะอยู่ตลอดสาย
พระพุทธองค์จึงตรัสว่า ธรรมะเป็นของคู่โลก
เป็นมาแบบนี้ชั่วกัปป์กัลป์
และจะเป็นตลอดไปไม่สิ้นสุด
ชีวิตมีธรรมะ ธรรมะมีชีวิต
อยู่กับเราตลอดเวลา เสมอ .
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
สุขไม่แท้ ทุกข์ไม่จริง
ทุกข์จะมากหรือน้อย
อยู่ที่การยึดติด
ยึดติดความทุกข์
คนเรานั้น..
ทั้งๆที่ไม่ต้องการเป็นทุกข์ ไม่ชอบหนทางใดที่เป็นทุกข์
ต่อเมือเกิดทุกข์ขึ้นมาแล้ว
กลับยึดไว้ ไม่ยอมปล่อยวาง
กลายเป็นแบกทุกข์เพิ่มเข้าไปในปัญหาที่มีมาแต่เดิมเข้าไปอีก
กลายเป็นทุกข์มากกว่าเก่า
ที่จริงแล้ว ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์
ไม่มีดี ไม่มีชั่ว
ไม่มีอะไรเลย...ไม่เป็นอะไรเลย
เรากำหนดมันขึ้นมาเองต่างหาก
ว่า..นี่ แบบนี้ คือความสุข
แบบนั้น แบบโน้น คือความทุกข์
ทั้งๆที่เขาอยู่เฉยๆ
เราก็ไปกำหนด ไปไขว่คว้ามาไว้
เอามาเป็นสมบัติของตัวเองซะงั้น
หนำซ้ำยังเสพติดรสชาดของความสุข
ของความทุกข์เข้าไปอีก
ขอพียงรู้ว่าอะไรคืออะไร
เมื่อรู้เท่าทันมันแล้ว
ก็สังเกตุอาการนั้นๆ
ทำความรู้จักกับสิ่งนั้นๆ
เข้าใจให้ถ่องแท้กับสิ่งนั้นๆ
แล้วจะเห็นว่ามันไม่ได้มีอะไรเลย
มันว่างเปล่า ไร้สาระ
มันไม่จริง มันหลอกลวง
สุดท้ายชีวิตก็จะสงบ
อยู่กับสุขได้โดยไม่โลภหลง
อยู่กับทุกข์ได้ โดยไม่ทุรนทุราย
ใจสบาย กายสบาย
ที่สุดก็นิพพาน.
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
Monday, 16 January 2012
โลกเป็นศูนย์รวมทุกสิ่งของสิ่งมีชีวิต
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายของสรรพสิ่ง
ทั้งที่มีชีวิตอยู่หรือไม่มีชีวิต
ทั้งพืช ทั้งสัตว์
ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างอยู่ข้างใน
แต่เป็นสมดุลที่โลกจำเ็ป็นต้องมี
คนเรามีทั้งคนดีไม่ดี
เป็นมาแบบนี้แต่ใหนแต่ไร
ย่อมมีทั้งที่เราถูกใจและไม่ถูกใจ
ย่อมมีทั้งคนที่เรารักและไม่รัก
ย่อมมีทางที่เราต้องการและไม่ต้องการ
เป็นแบบนี้และจะเป็นต่อไป
การที่เราอยู่บนโลก
เราก็ต้องพบเจอเรื่องแบบนี้
พบคนรัก พบการจาก พบสมหวัง ผิดหวัง
เพราะ...เราอยู่..บนโลก
จึงควรรู้และเข้าใจ
จึงควรเข้าใจและ...เข้าใจ.
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
ธรรมะที่แท้
ธรรมะที่แท้จริง..
ไม่ได้ให้เราเปลี่ยนแปลงอะไร ใดๆเลย
ธรรมะที่แท้นั้น
หมายถึงการอยู่กับทุกสิ่งอย่าง
ไม่ว่าจะกับตัวเราเอง ผู้อื่น หรืออยู่กับอะไรในโลก
ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง
ถูกต้องในเรืองของความเป็นจริง
และทำใจให้ " ถูกต้อง " ตาม
ความสุขเป็นธรรมะ
ความทุกข์ก็เป็นธรรมะ
ความดีใจ เสียใจ เป็นธรรมะ
ความโกรธ เศร้าโศรก เสียใจ ก็เป็นธรรมะ
ความจริง...เราอยู่กับธรมะตลอดเวลาและตลอดชีวิต
ธรรมะเป็นอย่างที่เป็น
โลกเป็นอย่างที่เป็น
เป็น...มาก่อนที่เราจะเกิด
การเปลี่ยนแปลงธรรมะหรือการเปลี่ยนแปลงโลก
จึงทำไม่ได้
เราต้องเปลี่ยนตัวเราเอง
เปลี่ยนเป็นยอมรับความจริง
เข้าใจความจริง
อยู่กับความจริง ด้วยความเข้าใจในเข้าใจ
นั่นคือ ควาหมายของธรรมะ .
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
Friday, 13 January 2012
จิต..เหมือนใบไม้ที่ปลิวตามแรงลม
ลมน้อยก็แค่สั่นไหว
มากขึ้นไปก็แกว่งไกว สบัด
หากต้านไม่ไหวก็ปลิดปลิว เคว้งคว้าง ล่องลอย ไร้ทิศทาง
จิต...เคลื่อนไหวไปตามอารมณ์
รัก..โลภ...โกรธ...หลง...
แต่จิตเดิมนั้นแท้ประภัสสร
ที่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัยภายนอกเท่านั้น
สิ่งที่เห็นเป็นเพียงอาการของอารมณ์
มิใช่อาการของจิต
จิตเป็นจิตอยู่เสมอ
ใบไม้ที่นิ่ง
เป็นเพราะไม่มีแรงลม
จิตที่นิ่งเป็นเพราะไม่มีแรงกระตุ้น
จิตธรรม.
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
ก็แค่ข่าวร้าย...ข่าวหนึ่ง
ก็แค่ข่าวร้ายข่าวหนึ่ง
เดี๋ยวมันก็จะจากไป...หายไป
เหมือนข่าวดีครั้งก่อน
ที่ในวันนี้ก็ไม่เป็นข่าวดีแล้ว
ทุกเรื่องราวต่างมีวาระ
ต่างมีเวลาของมัน
ไม่มีอะไรเป็นนิรันด์
ไม่มีอะไรคงที่
ทุกอย่างเป็นไปตามกฏ
กฏแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
กฏไตรลักษณ์
เมื่่อเรารู้ เราเข้าใจ
และตระหนักถึงความจริงข้อนี้อยู่เสมอ
ทุกอย่างก็เป็นเพียงสายลมพัดผ่าน
ผ่านมาผ่านไป
ก็เท่านั้น .
ร.ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
Tuesday, 10 January 2012
ความพลัดพราก
ไม่มีใครหนีความพรากจากพ้น
เพราะนี่ก็เป็นอีกสัจธรรมหนึ่งของโลก
เวลาที่ผิดหวัง ท้อแท้
เวลาที่ต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง
แม้กระทั่งความเศร้าโศรกเสียใจต่อการจากไปของบุคคลอันเป็นที่รัก
การสูญเสียเกิดขึ้นทุกวัน
ความพรากจากเกิดขึ้นทุกวินาที
แต่เราไม่รู้สึก
เพราะอยู่ไกลจากเรา ไม่ใช่ญาติพี่น้องเรา
ไม่ใช่คนที่เรารัก หรือรู้จัก
ทั่วโลก การตายเกิดขึ้นทุกวินาที
การสูญเสียเกิดขึ้นทุกลมหายใจ
แต่เราไม่รู้สึก อะไร
เพราะ ไม่ใช่เราื่หรือเรื่องของเรา
มันถูก ที่ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ทว่า...
มันก็เป็นเรื่องเดียวกัน การพรากจาก การสูญเสีย
เป็นความรู้สึกเดียวกัน เสียใจ โศรกเศร้า ผิดหวัง
ดังนั้น...เราจึงมิใช่คนเดียวในโลกแน่นอน ที่่เป็นทุกข์
ไม่ใช่เราคนเดียวแน่นอนที่เสียอกเสียใจ
เปิดตาดูโลก
แล้วทำความเข้าใจกับเรื่องธรรมดา
ที่ใครๆก็ต้องพบเจอ
ระลึกถึงความจริงของชีวิต
ความเศร้าโศรกเสียใจ ผิดหวัง ท้อแท้ ก็จะไม่ปรากฏ.
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
Monday, 9 January 2012
ฐานธรรม ธรรมฐาน: อายุยาว ?
ฐานธรรม ธรรมฐาน: อายุยาว ?: ปีใหม่ที่ผ่านมา มีหลายคำอวยพรที่พบเจอ ขอให้มีความสุข ขอให้สมหวัง ขอให้มีคนรักมากมาย มีเงินมีทอง ขอให้อายุมั่นขวัญยืน ฯลฯ ...
อายุยาว ?
ปีใหม่ที่ผ่านมา
มีหลายคำอวยพรที่พบเจอ
ขอให้มีความสุข ขอให้สมหวัง
ขอให้มีคนรักมากมาย มีเงินมีทอง
ขอให้อายุมั่นขวัญยืน ฯลฯ
ความสุข...เราขอให้ใครไม่ได้หรอก
อยากมีความสุขก็ต้องไม่แบกทุกข์
ความสมหวัง...เราก็บันดาลให้ใครไม่ได้
อยากสมหวังก็อย่าไปตั้งความหวัง
คนรัก...เราก็ต้องหาเอง
อยากให้คนมารัก ก็ต้องรู้จักที่จะรักคนอื่น
เงินทองเราก็ต้องหาเองเก็บเอง
จะมาแบมือขอใครก็คงไม่ได้ตลอดไป
ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเองทั้งนั้น
อายุขัยคนเราถูกกำหนดมาแล้ว
เกิดมาปุ๊ป อาุยุก็สั้นลงปั๊ป
อายุเราหายไป ทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน ทุกปี
คนเรานั้น อายุไม่ได้เพิ่มขึ้น
พอถึงวันเกิดแล้วบอกว่า อายุมากขึ้นอีกหนึ่งปี
อันนี้ไม่ใช่
อายุไม่ได้มาก น้อยลงต่างหาก
คนเรานั้นตกเป็นทาสคำว่า ..มาก
อะไรมากแล้วรู้สึกดี
น้อยไปไม่ไดี
ยิ่งอายุมากยิ่งไม่รู้อะไร
จงตระหนักถึงความจริง
ตระหนักถึงสัจจธรรม
อย่าประมาทกับชีวิต.
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
สุขแท้นั้น มีอยู่จริง
ความสุขนั้นมีอยู่จริง
จริง..ตอนที่มันเกิด
พอมันดับ...
...ความทุกข์ก็จะเข้ามาแทนที่
และความทุกข์ ก็จะตั้งอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
...เช่นกัน
เราจึงควรทำความเข้าใจ
และไม่สมควรที่จะไปยึดติด
ไม่ยึดติดสุข ไม่ยึดติดทุกข์
ไม่ยินดีกับสุข ไม่ยินร้ายกับทุกข์ ...ที่เกิด
ส่วน...
ชั่วขณะหนึ่ง นั้น
จะมากหรือน้อย จะยาวนาน หรือสั้นแป๊ปเดียว
ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของใครของมัน
ใครบางคน รู้แล้วปล่อยวาง
ใครบางคน รู้แล้ว แบกไว้
ใครบางคน ไม่รู้ ไม่ปล่อย
ใครบางคน ไม่รู้ ทำต่อไป
ขึ้นอยู่กับเรา
ว่าจะให้เป็นอย่างไร?
สุขทุกข์เป็นของคู่โลก
ตราบใดที่ยังยืนอยู่บนโลก...ย่อมพบเจอ
เหมือนกันหมด
ไม่ว่าใคร?
เป็นปกติ เป็นธรรมดา เป็นธรรมะ
ขององค์พระศาสดา.
ร. ปิยาจาโร
วัดบ้านพราน
แสวงหา อ่างทอง
๑๐ /๑ / ๑๒
ขอเชิญ ท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดบ้านพราน
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี
ทอด ณ วัดบ้านพราน
ตำบลศรีพราน อำเภอแสวงหา
จังหวังอ่างทอง
ในวันอาทิตย์ ที่ ๑๕ เมษายน
พ.ศ. ๒๕๕๕ ตรงกับแรม ๙ ค่ำ เดือน ๕
ด้วยทางวัด คณะกรรมการของวัด
รวมไปถึงพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันสร้างวิหารหลวงพ่อไกรทองมาเป็นเวลาประมาณ ๑ ปี ครึ่ง
ซึ่งก็สำเร็จลุล่วงเรียบร้อยไปด้วยดี นอกจากนี้นั้น ทางวัดก็ได้ดำเนินการสร้างเจดีย์หลังใหม่
( แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ) เพื่อให้สอดคล้องกลมกลืนรับกับวิหารหลังใหม่ พร้อมทั้งบูรณะกำแพงรอบพระอุโบสถและวิหารหลวงพ่อไกรทองไปด้วยกัน
รวมทั้ง ๒ รายการ ทางวัดได้ประเมินงบประมาณการก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ กว่าบาท
ทางวัด จึงเชิญชวนญาติโยมผู้ใจบุญ
ใจกุศลร่วมทำบุญ เพื่อนำจตุปัจจัยสมทบทุนในการสร้าง เจดีย์ และกำแพงรอบพระอุโบสถ
วิหารหลวงพ่อไกรทอง ในครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงและมั่นคงถาวรในบวรพระพุทธศาสนาสืบไป
ขออำนาจบุญกุศลที่ท่านทั้งหลายประกอบในครั้งนี้
จงประสบความสุขความเจริญในหน้าที่การงาน และเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ๔ ประการ คือ
อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลนานเทอญ
ประธาน
พระครูโกศลศาสนธรรม
เจ้าอาวาสวัดบ้านพราน
ทำบุญทอดผ้าป่า ณ วัดบ้านพราน
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี
ทอด ณ วัดบ้านพราน
ตำบลศรีพราน อำเภอแสวงหา จังหวังอ่างทอง
ในวันอาทิตย์ ที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ตรงกับแรม ๙ ค่ำ เดือน ๕
ด้วยทางวัด คณะกรรมการของวัด รวมไปถึงพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันสร้างวิหารหลวงพ่อไกรทองมาเป็นเวลาประมาณ ๑ ปี ครึ่ง ซึ่งก็สำเร็จลุล่วงเรียบร้อยไปด้วยดี นอกจากนี้นั้น ทางวัดก็ได้ดำเนินการสร้างเจดีย์หลังใหม่ ( แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ) เพื่อให้สอดคล้องกลมกลืนรับกับวิหารหลังใหม่ พร้อมทั้งบูรณะกำแพงรอบพระอุโบสถและวิหารหลวงพ่อไกรทองไปด้วยกัน รวมทั้ง ๒ รายการ ทางวัดได้ประเมินงบประมาณการก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ กว่าบาท
ทางวัด จึงเชิญชวนญาติโยมผู้ใจบุญ ใจกุศลร่วมทำบุญ เพื่อนำจตุปัจจัยสมทบทุนในการสร้าง เจดีย์ และกำแพงรอบพระอุโบสถ วิหารหลวงพ่อไกรทอง ในครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงและมั่นคงถาวรในบวรพระพุทธศาสนาสืบไป
ขออำนาจบุญกุศลที่ท่านทั้งหลายประกอบในครั้งนี้ จงประสบความสุขความเจริญในหน้าที่การงาน และเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลนานเทอญ
ติดต่อทางวัดได้ที่โทรฯ ๐๓๕-๘๗๐-๒๗๓
email : jaro1933@hotmail.com
: nhui1933@gmail.com
เยี่ยมชมวัด http://watbanphran.blogspot.com/
Subscribe to:
Posts (Atom)